Home » » หนูอิมอิม ซัดกลับ อ. นิสัยไม่แมน ความกตัญญูอยู่ไหน?

หนูอิมอิม ซัดกลับ อ. นิสัยไม่แมน ความกตัญญูอยู่ไหน?

เห็นทีศึกรักฝังแค้นระหว่างนักแสดงสาวอารมณ์ดี "หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์" กับอดีตใจจะยังมีประเด็นให้บรรดาแมงเม้าท์ได้รับประทานเผือกร้อนๆ กันอีกยาว... เพราะหลังจากที่ หนุ่ม อ. ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อแบบหนังคนละม้วนในเชิงว่า ตนคือฝ่ายที่ถูกนักแสดงสาวหักอกก่อน แถมตอนที่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ก็ยังตกปากยินยอมยกธุรกิจให้ฝ่ายหญิงทำหน้าที่ดูแลแต่เพียงผู้เดียว!! งานนี้เลยทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า สรุปแล้วใครกันแน่ที่กำลังสวมบทตัวละครลวงโลก!?


ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (1 พ.ค.) นักแสดงสาว "หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์" ก็ได้ถือโอกาสเชิญสื่อมวลชนร่วมฟังการเปิดใจถึงรายละเอียดและข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้นอกจากสาวอิมอิมจะขอเคลียร์แบบจัดหนักถึงทุกข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้แล้วนั้น เจ้าตัวก็ยังฝากคำถามแรงไปถึงอดีตคนรักอีกด้วยว่า "ความกตัญญูของคุณอยู่ที่ตรงไหนคะ !?"



"ตอนแรกหนูก็อยากจะจบนะคะ แต่เขาไม่สำเหนียก ดังนั้นถ้าเขาไม่แมน อิมก็จะขอแมนแทนเขาเองค่ะ ก่อนอื่มอิมต้องเริ่มเล่าเลยว่าตอนที่ชวนเขาทำงานด้วยกันแรกๆ อิมเป็นคนสอนเขาหมดทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าเขาเป็นคนขายสปอนเซอร์อิมพูดได้เลยว่าไม่จริง เพราะตอนแรกหนูเป็นคนขายแล้วให้เขาเป็นมือขวา แต่ช่วงครึ่งปีหลังเขาก็เริ่มที่จะหาสปอนเซอร์ได้เอง!! แล้วที่เขาบอกว่ารายการมีได้ก็เพราะพ่อเขาก็ไม่ใช่เรื่องจริงอีกเหมือนกัน คือการทำงานตรงนี้มันไม่มีการใช้เส้นนะคะ แต่เป็นเพราะรูปแบบรายการและศักยภาพของเราเองล้วนๆ"

"หลังจากนั้นไม่นาน อ. เขาก็เดินมาบอกหนูว่าทางช่องจะปลดอิมออกจากรายการเพราะอิมทำให้รายการดูโลว์ แล้วก็จะให้ปลดพี่ชายอิมอีก โดยให้เหตุผลพี่ชายอิมไม่ควรอยู่ฟรีทีวี ควรไปอยู่ช่องเคเบิ้ลมากกว่า เท่านั้นไม่พอเขายังบอกอีกว่าสปอนเซอร์ไม่อยากให้อิมถือผลิตภัณฑ์ เพราะอิมทำให้ดูแย่ ตอนนั้นแหละค่ะที่หนูเริ่มรู้สึกแปลกๆ เลยตัดสินใจเข้าไปคุยกับทุกฝ่ายที่เขาอ้างมา เพื่อถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นและหนูไม่ดีตรงไหนบ้างจะได้ปรับปรุงตัวถูก ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าไม่เคยพูดประโยคที่ อ. บอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว วินาทีนั้นหนูบอกได้เลยค่ะว่าหนูช็อคมาก เพราะเริ่มรู้แล้วว่าเขาคิดไม่ซื่อกับหนูแน่นอน"

"สุดท้ายหนูก็เลยตัดสินใจเรียกทั้ง 2 ครอบครัวมานั่งคุยกัน และในวันนั้นเอง อ. เขาก็ได้สารภาพความจริงในหลายๆ เรื่อง รวมไปถึงเรื่องหนึ่งที่เขาพูดต่อหน้าแม่หนูเลยว่า "เขาไม่ได้รักหนูตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่ที่ไม่รู้จะเลิกทำไมเพราะรายการที่ทำอยู่มันมองเห็นเม็ดเงิน" พอได้ยินแบบนั้นอิมตัดสินใจขอเลิกเลยค่ะ แล้วก็บอกอีกว่าขอให้เรื่องระหว่างอิมกับเขาจบเท่านี้ แต่ไม่รู้ยังไงตัวเขาถึงได้ไม่ยอมจบค่ะ เขาบอกว่าต้องสู้กัน คือมันจะต้องสู้อะไรอีกคะเพราะบริษัทเป็นชื่อของอิม เขาแค่ให้เงินอิม 273,171 บาท แถมค่าเวลาออกอากาศเป็นหลักล้าน คุณไม่เคยจ่ายแม้แต่บาทเดียว แต่คุณจะมายึดรายการคุณบ้าหรือเปล่า"

"ไม่พอค่ะช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาเขาแอบไปถ่ายทำรายการคนเดียว แถมพาเพื่อนหนูไปด้วย ตอนนั้นหนูรู้เลยค่ะว่ามันจะต้องมีการส่งเทปซ้อนแน่นอน หนูก็เลยรีบไปบอกกับทางช่อง ว่าต่อจากนี้ถ้าหากจะมีการส่งเทปต้องเป็นแค่ฝ่ายอิมคนเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องที่อิมบอกว่าเขาไม่แมนก็เป็นเพราะเขามาพูดอะไรแบบนี้ เขาพูดว่าอิมไปนอนกับเขาสองวันสามวัน คืออะไรคะเราอยู่ด้วยกันครอบครัวสองฝ่ายก็รู้"

การจดทะเบียนบริษัทจดในนามใคร ?
"ชื่อของอิมเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคุณ อ. เขาไม่ได้ทำงาน เขาไม่มีบริษัทอะไรเลย แต่พอเขาได้มาทำงานกับหนู เขาหาสปอนเซอร์ครึ่งปีหลังได้เขาก็เลยอยากจะเอาหนูออกจากบริษัท แต่เผอิญว่าทำไม่ได้ไงคะ"

ตอนลงหุ้นลงเงินกันคนละเท่าไหร่ ?
"ไม่ได้มีการลงหุ้นเลยค่ะ แค่เขาให้เงินต้นทุนหนูมา 273,171บาท นี่ก็เขียนเช็คให้เขาหลายเดือนแล้วแต่เขาไม่เอา เขาจะเอาทนายมาสู้กับหนู อีกเรื่องหนึ่งที่เขาบอกว่าเขามีเงินสด 50,000 บาทวางไว้กับหนู อันนี้ก็ไม่มีอีกเหมือนกันนะคะมีแค่เงินจากการบวช 10,000 บาทเท่านั้นเอง แถมที่ผ่านมาก็เป็นฉันอีกเหมือนกันเลี้ยงคุณ เงินเดือนคุณ 25,000 ไม่พอหรอก แล้วผิดไหมคะที่อิมเที่ยว อิมมีสังคม ชีวิตอิมมีเพื่อนนะคะไม่เหมือนเขา เขาไม่มีสังคมวันๆ นั่งเล่นแต่หุ่นยนต์กันดั้ม ถามหน่อยเถอะความกตัญญูของคุณอยู่ไหน คุณเรียกรู้วิชาจากดิฉันแล้วสุดท้ายก็หักหลังกันแบบนี้ ขนาดฉันพาคุณไปบวช ธรรมมะยังไม่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจคุณเลย"

"ไม่พอยังมีค่าต่างๆ ที่เขาส่งไลน์มาทวงอิมอีก ทั้งค่าชาเขียว 2,400 บาท ค่าน้ำมันรถอีก 1,000 บาท คืออิมต้องให้ค่าทางด่วนด้วยเลยไหม แล้วถ้าจะเคลียร์นะคะบอกเลยไม่ต้องดึงบุพการีเข้ามายุ่งเพราะนี่คือเรื่องของเราสองคนเท่านั้น ออกมาตั้งโต๊ะเคลียร์พร้อมๆ กันเลยความจริงมันจะได้ปรากฏสักที แต่ถ้าคุณอยากให้เรื่องจบง่ายๆ ไม่ต้องมีปัญหาก็เดินทางมารับเช็คซะ จากนั้นคุณจะไปทำอะไรก็เรื่องของคุณค่ะ ขอแค่อย่างเดียวช่วยกตัญญูหน่อย"

เงินเดือน 25,000 บาท คือเงินเดือนจากอะไร ?
"เขาคือมนุษย์ที่ไม่ทำงานค่ะ ครอบครัวเขาให้เงินเดือนเขาเดือนละ 25,000 ค่ะ แค่ค่าน้ำมันรถจากพระราม 2 มาบ้านหนูก็เป็นหมื่นแล้ว ถามหน่อยเถอะการที่หนูเที่ยวหรือหนูจะมีสังคมบ้างมันผิดมากเลยเหรอ ถึงหนูจะไม่ใช่ไฮโซแต่หนูก็โคตรมีกินนะคะ อีกเรื่องที่คุณบอกว่าคุณไม่เที่ยวคุณออกกำลังกายแล้วเหล้าขายทำไมข้างบ้านอ่ะ ยังปั่นเหล้าขายข้างบ้านอยู่เลย"

ตอนที่เราให้สัมภาษณ์กับสื่อเราเห็นข่าวแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
"ตกใจค่ะ มันแต่งเรื่องเก่งจัง ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าขอให้กรรมตามสนองอะไรนั้น อิมขอสาธุเลยค่ะ แต่อิมอยากรู้เฉยๆ ว่ากรรมตามสนองอะไร เพราะที่ตัวอิมตอนนี้ทีหลักฐานทุกอย่างครบหมด"

เหมือนทางครอบครัวเขาบอกว่าจะฟ้องเราเพราะเราทำให้ชื่อลูกเขาเสื่อมเสีย ?
"คุณเสื่อมเสียอะไรคะ อิมไม่เคยเอ่ยชื่อเขาสักคำ อิมต่างหากเป็นผู้หญิงที่ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกอย่างความรู้สึกของหนูคือหนูเคารพพ่อแม่เขามาก โดยเฉพาะพ่อเขาอิมยกให้เป็นวีรบุรุษเลย เพราะเขาสอนลูกเขาได้ดีมาก และถ้าอดีตแฟนหนูรู้จักฟังคำสั่งสอนของท่านบ้างชีวิตเขาจะดีกว่านี้เยอะเลย"

ติดต่อเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เรื่องการรับเช็ค ?
"เขาจะให้ทนายมาค่ะ อิมก็ได้แต่รอว่าเออช่วยมารับไปเถอะ แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ก็เหมือนกับว่าเขาเน้นทวงเรื่องค่าน้ำชา ค่าน้ำมัน ค่าบวชอย่างเดียวบ้าหรือเปล่า"

สรุปตอนนี้มีเงินในส่วนไหนบ้างที่เราตั้งใจจะคืนเขา ?
"ก็มีค่าที่อิมยืม 273,171 บาท อันนี้เขียนเป็นเช็คให้แล้วรอเขามารับอย่างเดียว ค่าบวชอีก 10,000 บาท ค่าน้ำชายเขียว 2,400 บาท และค่าน้ำมันอีก 1,000 บาท จบนะคะ ส่วนค่าที่หนูเลี้ยงเขาหนูให้เพราะตอนนั้นหนูรักเขา หนูไม่เก็บมาทวงหรอกไร้สาระค่ะ"

หลังมีข่าวแฟนๆ ให้กำลังใจเราเยอะไหม ?
"หนูตื้นตันตรงนี้มากค่ะ เพราะผู้หญิงแบบหนูมีคนคอยสนับสนุนมากมายและยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ นี่แหละค่ะคือเหตุผลที่ทำให้หนูสู้ หนูมีกำลังใจที่จะเริ่มทำงานต่ออีกครั้งถึงแม้ว่ารายการครึ่งปีหลังจะยังไม่ทีสปอนเซอร์เลยก็ตาม และตอนนี้หนูก็ได้กลับมาเป็นอิมอิมคนเดิมแล้วด้วย แฮปปี้มากค่ะ"

สุดท้ายเรามีอะไรอยากบอกคนที่ตามข่าวไหม เพราะหลายคนก็สับสนว่าใครกันแน่ที่พูดความจริง ?
"อิมเชื่อว่าคนฟังไม่ได้โง่ค่ะ แต่มันก็ต้องมีบ้างที่จะมีคนรักและมีคนเกลียด ดังนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะหากจะมีคำติชมสะท้อนกลับเข้ามา"






ที่มา: Sanook